วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

เที่ยวเพลินๆ...เดินเล่นที่นิทรรศการย้อนร้อยอดีตเมืองปากน้ำโพ



"เมืองสี่แคว    แห่มังกร     พักผ่อนบึงบอระเพ็ด     ปลารสเด็ดปากน้ำโพ"




สวัสดีค่ะเพื่อนๆ กลับมาพบกันอีกเช่นเคยนะคะ วันนี้เพื่อนๆสงสัยมั๊ยว่าคำขวัญที่กล่าวมาในข้างต้นนั้นเป็นคำขัวญของจังหวัดอะไร?  แล้ววันนี้ทำไมเริ่มต้นมาด้วยคำขวัญ?  ไม่ต้องแปลกใจไปหรอกนะคะ เพราะวันนี้เฟิร์นจะพาเพื่อนๆไปชมอดีตของเมืองปากน้ำโพ(จังหวัดนครสวรรค์) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเฟิร์นให้เพื่อนๆได้รู้จักกันค่ะ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเฟิร์นได้มีโอกาสไปนิทรรศการย้อนร้อยอดีตเมืองปากน้ำโพ ที่จัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าแฟแลนด์ ห้างเก่าแก่คู่เมืองปากน้ำโพนั่นเองค่ะ บรรยายกาศภายในงานนิทรรศการนั้นสวยงามจริงๆค่ะ น่าสนใจมากด้วย เฟิร์นอดใจไม่ไหวจึงเก็บภาพบรรยายกาศ พร้อมเรื่องราวต่างๆมาฝากเพื่อนๆด้วย จะน่าสนใจแค่ไหนกันนั้น ตามมาดูกันเลยค่ะ








เริ่มจากที่นี่เลยค่ะ ห้างแฟรี่แลนด์ (ห้างเก่าแก่ คู่เมืองปากน้ำโพ)







โดยสามารถเดินทางมาได้ตามแผนที่ด้านล่างนี้เลยค่ะ





จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ถึงวัตถุประสงค์ในการจัดนิทรรศการย้อนร้อยอดีตเมืองปากน้ำโพนี้ มีขึ้นเพราะ ต้องการให้ลูกหลานชาวปากน้ำโพ และบุคคลภายนอกได้รู้จักประวัติความเป็นมาของเมืองปากน้ำโพ จะได้เกิดสำนึกรักในบ้านเกิดของตนเอง ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาของเชิญเพื่อนๆดูงานนิทรรศการย้อนร้อยอดีเมืองปากน้ำโพกันเลยค่ะ


โดยบรรยายกาศภายในงานนิทรรศการ มีการจัดแสดงถึงประวัติความเป็นมาของเมืองปากน้ำโพ มีการจำลองบรรยายกาศสมัยเก่ารวมถึงร้านรวงต่างๆในอดีตที่เคยมีความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งในปัจจุบันบางร้านก็ได้หายไปตามกาลเวล แต่บางร้านยังคงเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะมีร้านอะไรบ้างนั้น เพื่อนๆตามมาดูกันได้เลยค่ะ




 ร้านนี้คือร้านขายสมุนไพรค่ะ







เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของวิถีชีวิตของคนในยุคก่อนว่า สมุนไพเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่ทำให้คนมีสุขภาพร่างกายแข็งเแรงมาได้จึงถึงปัจจุบันนี้ค่ะ




บ้านมะระยงค์ (ร้านโคว้เป็งหลีในอดีต)

เป็นบ้านของคหบดีเก่าของนายบุญเติม และนางชงศิริ ในปีพ.ศ. 2492 ซึ่งเป็นตัวแทนขายส่งสินค้านำเข้ามากมายจากต่างประเทศ เป็นบริษัทเซลล์รายแรกของจังหวัดนครสวรรค์ หลายคนรู้จักบ้านมะระยงค์จากความโดดเด่นของบ้านตึก ซึ่งเป็นบ้านหลังแรกๆที่มีการตกแต่งโครงสร้างแบบตะวันตก






ร้านเลี่ยงเอียะ




เป็นร้านขายของชำ ซึ่งจากการเดินดูแล้วรู้สึกเพลิดเพลินเป็นอย่างมากค่ะ เพราะได้เห็นสินค้าในสมัยก่อน ซึ่งสินค้าบางชนิดก้ยังมีขายอยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งยังได้เห็น ลูกคิด ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ชาวไทย เชื้อสายจีนใช้ในการคิดเลขเวลาขายของ ดูแล้วมีมนต์ขลังจริงๆค่ะ






โรงหนังเฉลิมชาติ








เป็นโรงหนังที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันโรงหนังเฉลิมชาติไม่มีแล้วค่ะ








  ร้านโกยี  ปัจจุบัน คือภัตตาคารโกยี






ร้านลิ้มฮั่วหยุ




เป็นร้านขายน้ำ เป็นเหมือนสภากาแฟนั่นเองค่ะ



    
 ร้านศรีศิลป

                                            


      
เป็นร้านถ่ายรูป ซึ่งเป็นการจัดจำลองให้เห็นร้านถ่ายรูปในสมัยก่่อน อีกทั้งยังมีการนำเอากล้องถ่ายรูปของจริงที่ใช้ถ่ายรูปในสมัยก่อนมาให้ดูกันด้วย กล้องของจริงใหญ่มากเลยค่ะ



                                                                            
                                                                             ห้างทอง
ภายในร้านแสดงทองรูปพรรณหลายแบบ มีเครื่องชั่งน้ำหนักทอง ซึ่งเป็นตราชั่ง ราคาทองในสมัยนั้นราคาประมาณบาทละ 400 บาทค่ะ




                                                                  ร้านขายยาชัยอรุณโอสถ
  




ร้านชัยอรุณโอสถเป็นร้านขายยา ที่ได้มีการจัดแสดงลักาณะร้านในสมัยก่อนให้ได้ชมกัน โดยมีทั้งเครื่องชั่งยา ตัวยา และเครื่องบดยาให้ได้เห็นกันด้วยค่ะ ซึ่งในปัจจุบันร้านชัยอรุณโอสถก็ยังเปิดขายยาอยู่นะคะ





                                                                ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็กเส็ง







                                       






                                        


เป็นร้านที่จัดแสดงสินค้า ที่ขายกันในสมัยนั้น ในส่วนนี้เฟิร์นของบอกเพื่อนๆเลยนะคะว่า น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก เพราะได้เห็นสินค้าเหล่านั้นจริงๆ และส่วนมากสินค้ายี่ห้อนั้นๆก็ยังมีขายอยู่ในปัจจุบัน แต่มีการเปลี่ยนรูปลักาณะภายนอกของผลิตภัณฑ์ไป เพื่อความทันสมัยค่ะ




                                                                    ร้านนิพนธ์เกษา

โดยภายในร้านนิพนธ์เกษานี้เป็นการจัดแสดง ร้านตัดผมในสมัยก่อน เฟิร์นได้เห็นอุปกรณ์ตัดผม ตั้งแต่กรรไกร มีดโกนหนวด และเก้าอี้ตัดผม ที่สวยมากๆเลยละค่ะ




ภายในพื้นที่การจัดแสดงยังมีห้องพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ที่จักแสดงเกี่ยวประวัติความเป็นมาของคนไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ อีกทั้งยังมีประวัติของคณะเชิดมังกรที่เก่าแก่ของจังหวัดนครสวรรค์อีกด้วยนะคะ...ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูกันเลยค่ะ














แล้วทั้งหมดนี้ที่เฟิร์นนำมาฝากเพื่อนๆเป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานนิทรรศการย้อนร้อยอดีตเมืองปากน้ำโพเท่านั้นนะคะ งานของจริงยังมีสิ่งของเก่าๆมาจัดแสดงให้ได้ชมกันมากกว่านี้ อีกทั้งของจริงที่จัดแสดงยังมีความสวยงามเป็นอย่างมากค่ะ สวยกว่าในรูปภาพอีกนะคะ ถ้าเพื่อนๆมีโอกาสได้ผ่านมาที่จังหวัดนครสวรรค์ก็ขอเชิญมาเยี่ยมชมนิทรรศการย้อนร้อยอดีตเมืองปากน้ำโพนี้กันได้นะคะ งานจัดแสดงอยู่ตลอดยังไม่มีกำหนดยกเลิกคะ โดยงานจัดแสดงที่ชั้นห้า และเปิดให้ชมงานเวลา 10.00น. ถึง 20.00น.ค่ะ

แล้วจากนิทรรศการย้อนร้อยอดีตเมืองปากน้ำโพในข้างต้นนั้นสามารถบูรณาการไปใช้กับวิชาสังคมได้ หากโรงเรียนนั้นอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์  สามารถนำไปบูรณาการในการ สอนในหัวข้อ "ท้องถิ่นของเรา" โดยให้นักเรียนเข้าชมนิทรรศการ เพื่อศึกษาอดีตของเมืองปากน้ำโพ ซึ่งเป็นบ้านเกิดและเป็นที่อยู่อาศัยของนักเรียน โดยมุ่งหวังให้นักเรียนเข้าชม แล้วเกิดความประทับใจ และเกิดสำนึกรักในบ้านเกิดของตนเองค่ะ

ว้นนี้เฟิร์นหวังเป็นอย่างยิ่งนะคะว่าเพื่อนๆจะเพลิดเพลินและได้รับความรู้ใหม่ๆไปกับการชมภาพนิทรรศการย้อนร้อยอดีตเมืองปากน้ำโพที่เฟิร์นนำมาฝาก  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้า....สวัสดีค่ะ :)












วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

ดูละคร...แล้วย้อนกลับมาดูตนเอง

สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกท่าน กลับมาพบกันอีกเช่นเคยนะคะหลังจากที่ห่างหายกันไป วันนี้เฟิร์นได้มีโอกาสกลับมาเขียนอีกครั้งนึงค่ะ เพื่อนๆเป็นอย่างไรกันบ้างคะ ช่วงนี้ปัญหาทางด้านการเมืองกำลังร้อนแรงเพื่อนๆเครียดกันอยู่รึเปล่าเอ่ย? เวลาที่เพื่อนๆเครียด เหงา เบื่อ หรือมีเวลาว่าง เพื่อนๆทำอะไรกันคะ บางคนเล่นเกม บางคนฟังเพลง บางคนอ่านหนังสือที่ตนเองชอบ หรือบางคนดูละครทีวี  ละครทีวีเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจใช่มั๊ยละคะ เฟิร์นเป็นหนึ่งในแฟนคลับละครทีวีเลยละค่ะ เพราะอยู่หอเวลาว่างมักจะดูละครทีวี ซึ่งมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ และแซบมากค่ะ อิอิ (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะ) อย่างช่วงที่ผ่านมาก็มีละครที่สนใจหลายๆเรื่องที่ทำให้แฟนๆประทับใจกันมาก เนื้อเรื่องเข้มข้นถึงพริกถึงขิงเลยทีเดียว



ซึ่่งการดูละครไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพื่อนๆเคยสังเกตกันมั๊ยคะว่าละครบางเรื่องมีเนื้อหาที่ค่อนข้างรุนแรง(แต่เฟิร์นแอบคิดว่า ที่จริงแล้ว มันก็ล้วนแต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสังคมนะคะ เพื่อนๆว่ามั๊ย?) แต่ถ้าเราดูอย่างมีสติ คิดและพิจารณาไปด้วย เพื่อนๆจะพบว่าในละครเหล่านั้นมีสาระหรือแนวคิดดีๆซ่อนอยู่ เหมือนกับคำพูดที่ว่า "ดูละคร แล้วย้อนกลับมาดูตนเอง" บางทีเพื่อนๆอาจจะนึกภาพไม่ออกว่ามันสอนอย่างไรนะ? วันนี้เฟิร์นเลยนำละครเรื่องเก่าๆที่มีแง่คิดดีๆ สำหรับเตือนใจมาฝากเพื่อนๆกันด้วยนะคะ มาดูกันดีกว่าว่ามีเรื่องอะไรกันบาง มีเรื่องที่เพื่อนชอบหรือเคยดูกันบ้างมั๊ยนะ อิอิ



เรื่องนี้เลยค่ะ เพิ่งจบไปได้ไม่นาน.....กับเรื่องทองเนื้อเก้า





ซึ่งบางครั้งการที่เราดูละครทองเนื้อเก้านี้ เราจะเห็นได้ว่ามีหลายๆฉากที่มีเนื้อหาค่อนข้างรุน ทั้งการดื่มสุรา  การแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อย  การไม่รักนวลสงวนตัว คนที่มองแบบผิวเผินอาจจะมองเห็นเพียงแค่นี้ แต่การที่มีข้อคิดคำคม ท้ายเรื่องทำให้เราฉุกคิดได้ และดูตัวละครนั้นๆไว้เป็นบทเรียน แบบไหนที่ดีก็ควรเอาเยี่ยงอย่าง แต่ถ้าตัวอย่างไหนไม่ดีก็ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างกันนะคะ


และอีกเรื่องหนึ่งที่เฟิร์นจะยกมาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆเห็นภาพกันชัดเจนมากขึ้นนั่นก็คือ ละครเรื่อง.....แรงเงานั่นเองค่ะ







ละครเรื่องแรงเงา ถือเป็นละครยอดนิยมมากทีเดียวค่ะ กวาดรางวัลมาหลายเวทีแล้ว อีกทั้งยังเป็นละครที่สะท้อนปัญหาในเรื่องสังคม และครอบครัวได้เป็นอย่างดีเลยนะคะ และถึงแม้จะมีเรื่องหาบางตอนที่ค่อยข้างรุนแรง แต่ในความรุนแรงนั้นแฝงไปด้วยข้อคิดเป็นอย่างดีเลยนะคะ หากเราพิจารณาเราจะพบว่าละครเรื่องนี้มีข้อคิดแฝงอยู่มากมายค่ะ


เห็นมั๊ยคะว่าการดูละครไม่ได้ทำให้เสียเวลาไปเปล่า หากดูแล้วนำข้อคิดที่ได้มาสอนตนเอง จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเพื่อนๆนะคะ อีกทั้งละครยังเป็นสื่อที่มีทั้งภาพและเสียงที่ทำให้เราเห็นภาพได้ชัดเจน ทั้งความเป็นไปในเรื่องที่ผิดหรือถูก

ดังนั้นละครจึงน่าจะเป็นสื่อที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเรานะคะ ถ้านำมาเป็นข้อคิดให้กับตนเอง และที่สำคัญอย่ามัวดูละครจนละเลยหน้าที่ของตนเองนะคะ.........ดังคำที่ว่า

 " ชีวิตคนก็เหมือนหนัง เหมือนละคร ทุกครั้งที่เมื่อเราเห็นสิ่งที่ไม่ดีในหนัง ในละคร เราก็เฝ้าแต่คิดว่าเอาอะไรมาให้ดู  เราดูแล้วเราเห็นอะไร เราเห็นสิ่งที่เขาทำหรือสิ่งที่เราไม่ควรทำ สิ่งนั้นขึ้นอยู่กับตัวเราเอง "

ปล.คำคมนี้ขอยืมมาจากละครเรื่องทองเนื้อเก้าค่ะ